ดอกแค

ดอกแค ผักพื้นบ้านที่กินอร่อย
ดอกแค คือ ดอกของต้นแค (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sesbania grandiflora) ซึ่งเป็นพืชในตระกูลถั่ว ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 3–10 เมตร มีรสขมเล็กน้อย โดยเฉพาะเกสรด้านใน มักจะเด็ดเกสรออกก่อนนำมาปรุงอาหาร
ลักษณะของดอกแค
- ลำต้น : ไม้ยืนต้นสูง 3–10 เมตร เปลือกบาง กิ่งเปราะหักง่าย
- ใบ : ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ใบย่อยรูปรีเล็ก ๆ สีเขียวอ่อน เรียงสลับกัน
- ดอก : ดอกใหญ่ รูปคล้ายปากนกแก้ว สีขาวหรือแดงอมชมพู กลีบอวบนุ่ม เกสรมีรสขม นิยมเด็ดเกสรก่อนปรุง
- ผล/ฝัก : ฝักยาวตรง ภายในมีเมล็ดหลายเมล็ด เมื่อแก่จะแตกง่าย
- ราก : มีรากแก้วและรากแขนงมาก มีปมรากที่มีจุลินทรีย์ช่วยตรึงไนโตรเจนในดิน
จุดเด่นของดอกแค
- 🌸 ดอกใหญ่สวยงาม รูปร่างคล้ายปากนกแก้ว สีขาวหรือแดงอมชมพู
- 🍲 กินได้หลายแบบ นิยมทำแกงส้ม ผัด ทอด หรือกินลวกกับน้ำพริก
- 🌿 รสชาติเอกลักษณ์ ออกขมนิด ๆ โดยเฉพาะเกสร (มักเด็ดออกก่อนปรุง)
- 💪 คุณค่าทางอาหารสูง มีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และใยอาหาร
- 🌱 เป็นพืชตระกูลถั่ว รากมีปมที่ช่วยตรึงไนโตรเจน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์
- 💊 สรรพคุณสมุนไพร ใช้แก้ท้องร่วง แก้อักเสบ บำรุงสายตา และช่วยขับเสมหะ
- 🌳 ปลูกง่าย โตไว ให้ร่มเงาได้ด้วย

ประโยชน์ของดอกแค
- ด้านอาหาร : ดอกและใบกินได้ ทำแกงส้ม ชุบแป้งทอด ผัดหรือลวกจิ้มน้ำพริก อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ
- ด้านสมุนไพร
- ดอก – แก้ร้อนใน ลดอักเสบ ขับเสมหะ
- ใบ – แก้ไอ บำรุงร่างกาย
- เปลือก – ฝาดสมาน แก้ท้องร่วง
- ราก – ขับลม แก้ปวดท้อง
- ด้านเกษตร : เป็นไม้ยืนต้นโตเร็ว ให้ร่มเงา และรากช่วยตรึงไนโตรเจน เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
การปลุกต้นดอกแค
- ขยายพันธุ์ได้ด้วย เมล็ดหรือกิ่งชำ (นิยมเพาะเมล็ด)
- ดินที่เหมาะสมคือ ดินร่วนปนทรายหรือดินเหนียวที่ระบายน้ำดี
- ปลูกลงหลุมขนาด 30x30x30 ซม. ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุม
- เว้นระยะปลูกต้นละประมาณ 2–3 เมตร
- แคเป็นพืช ทนแล้ง โตไว ดูแลง่าย เพียงรดน้ำบ้างและใส่ปุ๋ยอินทรีย์ปีละ 1–2 ครั้ง
- เริ่มเก็บดอกได้เมื่ออายุ 6–8 เดือน และเก็บได้เรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี
แค เป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกง่าย โตไว ทนแล้ง และให้ผลผลิตดอกใช้ทำอาหารได้อย่างต่อเนื่อง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือกิ่ง มีคุณค่าทางโภชนาการ ใช้เป็นสมุนไพร และยังช่วยบำรุงดิน