ชิโครี่

ชิโครี่ ใช้แต่งรส เพิ่มกลิ่นหอม
ชิโครี่ (Chicory) 🌿ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cichorium intybus เป็นผักใน วงศ์ : Asteraceae (ตระกูลเดียวกับเดซี่และผักกาดหอม) พืชล้มลุกที่มีหลายชนิด/สายพันธุ์ ใช้กินได้ทั้ง ราก และ ใบ
ลักษณะของผักชิโครี่
- ลำต้น : ต้นสูงได้ถึง 1–1.5 เมตร (โดยเฉพาะชนิดป่า)
- ใบ : มีทั้งพันธุ์ใบกว้างเขียว ใช้กินสดเป็นสลัด หรือพันธุ์ที่ใบสีแดงม่วง (เช่น แรดิชิโอ Radicchio)
- ดอก : สีฟ้าอ่อนถึงน้ำเงิน (สวยคล้ายดอกเดซี่)
- ราก : เป็นรากแก้ว ใช้ประโยชน์ได้มาก เช่น คั่วทำกาแฟชิโครี่
จุดเด่นของผักชิโครี่
- 🍃 รสชาติเอกลักษณ์ : ใบขมอ่อน ๆ ช่วยตัดเลี่ยน เพิ่มรสซับซ้อน
- 🌱 ใช้ได้หลายส่วน : ใบทำสลัด/ผัด/ซุป รากคั่วทำกาแฟชิโครี่
- 💪 คุณค่าทางโภชนาการสูง : มีวิตามิน A, C, K, ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ
- 🌍 นิยมในอาหารยุโรป : โดยเฉพาะอิตาลี ฝรั่งเศส และเบลเยียม
- 🌈 ความหลากหลายของพันธุ์ : แรดิชิโอ (ใบม่วงแดง), เอนไดฟ์ (ใบสีขาวนวล), เอสการอล (ใบเขียว), รากชิโครี่

ประโยชน์ของผักชิโครี่
- ช่วยระบบย่อยอาหาร – ใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และบำรุงสุขภาพลำไส้
- เสริมภูมิคุ้มกัน – มีวิตามิน C สูง ช่วยต้านการติดเชื้อและเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- บำรุงกระดูกและเลือด – วิตามิน K ช่วยในการสร้างกระดูกและการแข็งตัวของเลือด
- ต้านอนุมูลอิสระ – มีสารแอนโทไซยานิน (โดยเฉพาะในแรดิชิโอ) ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก – แคลอรีต่ำ ไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มนาน เหมาะกับผู้ควบคุมน้ำหนัก
- บำรุงสายตา – มีวิตามิน A และสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อดวงตา
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด – ใยอาหารช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล
การปลูกผักชิโครี่
- ดิน: ร่วนซุย ระบายน้ำดี pH 6.0–7.5 ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก่อนปลูก
- เพาะเมล็ด: หยอดลึก 0.5–1 ซม. ระยะต้น 20–30 ซม. ระหว่างแถว 30–40 ซม.
- การดูแล
- แดดจัดถึงแดดรำไร
- รดน้ำสม่ำเสมอ ดินชื้นแต่ไม่แฉะ
- ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ (15-15-15) ช่วงเจริญเติบโต
- ถอนวัชพืชและพรวนดินสม่ำเสมอ
- ศัตรูพืช/โรค : เพลี้ยอ่อน หนอนผีเสื้อ หอยทาก และโรครากเน่าเมื่อดินแฉะ
- เก็บเกี่ยว
- ใบสลัด : 50–70 วันหลังเพาะเมล็ด
- แรดิชิโอ/ใบสีม่วงแดง : 60–90 วัน
- รากสำหรับคั่ว : 90–120 วัน
ผักชิโครี่ ปลูกง่าย คล้ายผักกาดหอม แต่ต้องดูแล น้ำ แสงแดด และดินระบายน้ำดี เพื่อให้ได้ใบและรากคุณภาพดี รสขมเฉพาะตัว ใช้ได้ทั้งใบและราก มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเป็นผักสำคัญในอาหารยุโรป