คอลลาร์ดกรีนส์

คอลลาร์ดกรีนส์ ใบใหญ่ เขียวเข้ม ไม่ห่อหัว
คอลลาร์ดกรีนส์ (Collard Greens) 🥬 เป็นผักใบเขียวตระกูล กะหล่ำ (Brassica oleracea, กลุ่ม Acephala) เช่นเดียวกับคะน้า กะหล่ำปลี และบร็อกโคลี เป็นไม้ล้มลุก ใบใหญ่ หนา สีเขียวเข้ม นิยมปลูกมากใน สหรัฐอเมริกา แอฟริกา และยุโรป โดยเฉพาะในอาหารทางใต้ของอเมริกา (Southern cuisine)
ลักษณะของผักคอลลาร์ดกรีนส์
- ลำต้น : พืชล้มลุก ลำต้นตั้งตรง แข็งแรง สูงได้ 60–120 ซม.
- ใบ : ใบใหญ่ แบน สีเขียวเข้ม ก้านใบหนา ไม่ม้วนเป็นหัวเหมือนกะหล่ำปลี
- ดอก : ดอกเล็กสีเหลือง ออกเป็นช่อ (แต่ปลูกกินใบ จึงไม่ค่อยปล่อยให้มีดอก)
- ผล/เมล็ด : ผลเป็นฝัก มีเมล็ดกลมเล็กสีน้ำตาล
- ราก : มีรากแก้วและรากแขนง ชอนไชลึก ทำให้ทนแล้งได้พอสมควร
จุดเด่นของผักคอลลาร์ดกรีนส์
- 🌱 ใบใหญ่ หนา สีเขียวเข้ม ไม่ม้วนเป็นหัวเหมือนกะหล่ำปลี
- 🍲 นำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งต้ม ผัด ตุ๋น หรือนำไปแทนใบห่ออาหาร
- 💪 คุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินเอ ซี เค แคลเซียม เหล็ก และใยอาหารมาก
- 🌿 รสชาติเป็นเอกลักษณ์ ออกขมนิด ๆ คล้ายคะน้าและเคล ยิ่งต้มตุ๋นจะยิ่งนุ่มและรสดีขึ้น
- 🌍 นิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในอาหารภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา และบางประเทศในแอฟริกาและยุโรป
- 🪴 ปลูกง่าย ทนแล้งได้ระดับหนึ่ง เก็บใบกินต่อเนื่องได้หลายเดือน

ประโยชน์ของผักคอลลาร์ดกรีนส์
- เป็นผักใบเขียวที่มี วิตามินเอ ซี เค และแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงสายตา กระดูก และภูมิคุ้มกัน
- มี ใยอาหารมาก ช่วยระบบขับถ่าย ควบคุมน้ำหนัก และลดคอเลสเตอรอล
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ
- ใบใหญ่ใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งต้ม ผัด ตุ๋น หรือนำไปห่ออาหาร
การปลูกผักคอลลาร์ดกรีนส์
- เพาะเมล็ด 3–4 สัปดาห์แล้วจึงย้ายปลูกลงแปลง
- ดินที่เหมาะสมคือ ดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี
- ต้องการ อากาศเย็น (15–25 °C) และแสงแดดเต็มวัน
- ระยะปลูกประมาณ 40–60 ซม. ระหว่างต้น และ 60–90 ซม. ระหว่างแถว
- ดูแลด้วยการรดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยไนโตรเจนเล็กน้อย และกำจัดวัชพืช
- เริ่มเก็บเกี่ยวใบได้เมื่ออายุ 60–75 วัน และเด็ดใบแก่รอบนอกได้ต่อเนื่องหลายเดือน
ผักคอลลาร์ดกรีนส์ เป็นผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ช่วยบำรุงร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน ดูแลระบบย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง