อีฮีน
อีฮีน สมุนไพรบางพื้นที่ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
อีฮีน ผักพื้นบ้านของอีสาน ชื่อเรียกอาจแตกต่างกันตามท้องถิ่น พบว่ามักหมายถึง ผักเสี้ยว / ผักเสี้ยวดง (บางพื้นที่เรียก ผักอีนีน) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบรูปรี กลิ่นหอมเฉพาะตัว ยอดอ่อนและใบอ่อนใช้กินเป็นผักสดกับลาบ ก้อย หรือน้ำพริก มีรสออกขมนิด ๆ และมีกลิ่นหอมแบบสมุนไพร
ลักษณะของผักอีฮีน
- ลำต้น – สีเขียวอ่ออน ผิวค่อนข้างสาก แตกกิ่งก้านมาก
- ใบ – เดี่ยว รูปรี ปลายแหลม ผิวใบเรียบ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
- ราก – เป็นรากแก้ว พร้อมรากแขนงจำนวนมาก
- ดอก – มีทั้งสีขาว ชมพู ม่วง และน้ำเงิน ออกเป็นช่อเล็ก ๆ
จุดเด่นของผักอีฮีน
- กลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารอีสาน
- รสขมนิด ๆ ปนหอม เป็นเอกลักษณ์
- กินสดได้ นิยมเป็นผักเคียงลาบ ก้อย น้ำพริก
- ขึ้นง่าย โตตามธรรมชาติ ไม่ต้องดูแลมาก
- มีการใช้เป็น สมุนไพรพื้นบ้าน ช่วยขับลมและบำรุงธาตุ

ประโยชน์ของผักอีฮีน
- ใช้เป็น ผักกินสด กับลาบ ก้อย น้ำพริก เพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ
- ให้ วิตามินและใยอาหาร เหมือนผักพื้นบ้านทั่วไป
- ใช้เป็น สมุนไพรพื้นบ้าน ช่วยขับลม แก้ท้องอืด บำรุงธาตุ
- เป็นพืช ปลูกง่าย โตเร็ว ทนแล้ง ช่วยอนุรักษ์พืชท้องถิ่น
การปลูกผักอีฮีน
- ขยายพันธุ์ง่าย โดยปักชำกิ่ง (นิยมที่สุด โตเร็ว ติดง่าย)
- ใช้กิ่งกึ่งอ่อนกึ่งแก่ ยาวประมาณ 15–20 ซม.
- ปลูกใน ดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ไม่ให้น้ำขัง
- ต้องการแดด ครึ่งวันถึงเต็มวัน
- รดน้ำสม่ำเสมอช่วงแรก พอตั้งตัวแล้วรด 2–3 วันครั้ง
- ใส่ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เดือนละครั้ง
- เด็ดยอดให้แตกพุ่มและโตเร็ว
- เก็บยอดอ่อนได้เมื่ออายุ ประมาณ 1.5–2 เดือน
ผักอีฮีน (หรือ ผักอีนีน / ผักเสี้ยว / ผักเสี้ยวดง) เป็น ผักพื้นบ้านอีสาน ชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็น ไม้พุ่มขนาดเล็ก มีใบเดี่ยวรูปรี มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและรส ขมนิด ๆ นิยมเก็บ ยอดอ่อนและใบอ่อนมากินสด กับลาบ ก้อย และน้ำพริก รวมทั้งมีการใช้เป็น สมุนไพรพื้นบ้าน ช่วยขับลมและบำรุงธาตุ




