อ็องดิฟ
อ็องดิฟ ใช้ทำอาหารได้ทั้งสดและสุก
อ็องดิฟ (Endive) เป็นผักสลัดชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูล Asteraceae (ตระกูลเดียวกับผักกาดหอม) มีรสออก ขมเล็กน้อย และมักใช้ในสลัดหรือเมนูอาหารฝรั่งเศส-ยุโรป เพื่อเพิ่มรสและเนื้อสัมผัส
ลักษณะของผักอ็องดิฟ
- ลำต้น : สั้น ใบขึ้นเป็นกอหรือเป็นหัวแน่น ขึ้นกับชนิด
- ใบ
- Curly Endive (Frisée) : ใบหยิกฟู สีเขียวอ่อน–เข้ม กรอบ รสขมเล็กน้อย
- Belgian Endive : ใบเรียบ รูปรี สีขาวนวล ปลายเหลือง เรียงแน่นเป็นหัว
- ราก : เป็นรากแก้วใหญ่ ใช้สะสมอาหาร และเป็นส่วนสำคัญในการเพาะ Belgian Endive
- ดอก : สีฟ้าอมม่วง คล้ายชิโครี (แต่ทั่วไปไม่ปล่อยให้ถึงระยะออกดอกเพราะเก็บกินใบ/หัวก่อน)
จุดเด่นของผักอ็องดิฟ
- รูปลักษณ์สวยงาม – มีทั้งแบบใบหยิกฟู (Frisée) และแบบหัวแน่นสีขาวนวล (Belgian Endive) เหมาะทั้งกินและตกแต่งจาน
- รสชาติเอกลักษณ์ – ขมเล็กน้อย ช่วยตัดเลี่ยนอาหารมัน ๆ และเพิ่มมิติในสลัด
- คุณค่าทางอาหารสูง – อุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามิน A, K, โฟเลต และโพแทสเซียม แต่ให้พลังงานต่ำ
- ใช้ปรุงได้หลากหลาย – กินสดก็ได้ หรือปรุงสุกแล้วรสขมจะลดลง เหมาะทั้งอบ ย่าง ผัด ตุ๋น
- การปลูกเฉพาะตัว – โดยเฉพาะ Belgian Endive ที่ต้องปลูกในความมืดเพื่อให้ได้หัวสีขาวนวล เอกลักษณ์ไม่เหมือนผักอื่น

ประโยชน์ของผักอ็องดิฟ
- ไฟเบอร์สูง → ช่วยระบบขับถ่าย ป้องกันท้องผูก
- วิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย → โดยเฉพาะ วิตามิน A (บำรุงสายตา), วิตามิน K (บำรุงกระดูก เลือดแข็งตัว), โฟเลต (ดีต่อสตรีมีครรภ์), โพแทสเซียม (ควบคุมความดันโลหิต)
- แคลอรีต่ำ ไขมันน้อย → เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ → ช่วยลดการอักเสบ และเสริมภูมิคุ้มกัน
- ใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย → กินสดในสลัด หรือปรุงสุกแล้วรสขมลดลง เหมาะทั้งอาหารง่าย ๆ และอาหารฝรั่งชั้นสูง
การปลูกผักอ็องดิฟ
- อากาศที่เหมาะสม : ชอบอากาศเย็น 15–20°C
- ดิน : ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี pH 6.0–6.8
- การเพาะปลูก : เพาะเมล็ด → ย้ายกล้าลงแปลงเมื่อสูง 10–15 ซม.
- การดูแล : รดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์/ไนโตรเจน กำจัดวัชพืช
- การบังแสง (Blanching) : คลุมกอ 1–2 สัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อลดความขมและทำให้ใบ/หัวนุ่ม
- เก็บเกี่ยว
- Curly Endive (Frisée) : เก็บได้ใน 85–100 วัน
- Belgian Endive : ต้องขุดรากแก่ → ตัดใบ → ฝังรากในที่มืด (forcing) → รอแตกหัวใหม่สีขาว 3–4 สัปดาห์
อ็องดิฟปลูกจากเมล็ดในดินร่วน อากาศเย็น ดูแลให้น้ำและปุ๋ยพอเหมาะ เก็บเกี่ยวได้ภายใน 2–3 เดือน สำหรับ Belgian Endive ต้องใช้วิธีบังคับหัวในที่มืดเพื่อให้ได้หัวสีขาวนวล




