ไมโครกรีน
ไมโครกรีน คุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าผักโตเต็มวัยหลายเท่า
ไมโครกรีน (Microgreen) คือ 🌱 ผักอ่อนที่เพาะจากเมล็ดของพืชผักหรือสมุนไพรต่าง ๆ แล้วเก็บเกี่ยวตอนที่ต้นกล้าเริ่มงอก มีความสูงประมาณ 2–3 นิ้ว (5–7 เซนติเมตร) หรืออายุเพียง 7–14 วันหลังงอก เท่านั้น
ลักษณะของผักไมโครกรีน
- มีขนาดเล็ก อ่อนนุ่ม และสีสันสดใส (เขียว แดง ม่วง แล้วแต่ชนิดของพืช)
- มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวตามชนิดของผัก เช่น ผักชีอ่อนจะหอมคล้ายผักชีแก่
- นิยมรับประทานทั้งต้นและใบ
ตัวอย่างพืชที่นิยมปลูกเป็นไมโครกรีน
- คะน้า
- บรอกโคลี
- กะหล่ำปลี
- ทานตะวัน
- ถั่วลันเตา
- ผักชี
- บีตรูต
- เรดิช (หัวไชเท้าแดง)
- โหระพา

ประโยชน์ของผักไมโครกรีน
- อุดมด้วยสารอาหารสูงมาก (วิตามิน C, E, K, เบต้าแคโรทีน ฯลฯ) มากกว่าผักโตเต็มวัย 4–40 เท่า
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ มะเร็ง และเบาหวาน
- มีไฟเบอร์สูง ช่วยระบบขับถ่าย
- ปลอดสารเคมี เพราะปลูกง่าย ใช้เวลาสั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง
การปลูกผักไมโครกรีน
- เตรียมถาดปลูกหรือภาชนะตื้น ๆ
- ใส่วัสดุปลูก เช่น ดินผสม ขุยมะพร้าว หรือกระดาษทิชชูชุบน้ำ
- โรยเมล็ดให้ทั่วและพรมน้ำ
- คลุมฝาให้มืด 1–2 วันเพื่อกระตุ้นการงอก
- หลังงอกแล้วเปิดให้โดนแสงและรดน้ำเช้า–เย็น
- เก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 7–14 วัน
การนำไปใช้
- ใช้ตกแต่งอาหาร เช่น สลัด แซนด์วิช หรืออาหารจานหลัก
- ช่วยเพิ่มรสชาติ กลิ่นหอม และคุณค่าทางโภชนาการ
ผักไมโครกรีน (Microgreen) คือ ผักอ่อนที่เพาะจากเมล็ดของพืชผักหรือสมุนไพรต่าง ๆ แล้วเก็บเกี่ยวในระยะต้นกล้าอายุประมาณ 7–14 วันหลังงอก มีขนาดเล็ก สีสันสดใส และมีกลิ่นรสเฉพาะตัวตามชนิดของพืช นิยมปลูกจากคะน้า บรอกโคลี ทานตะวัน ผักชี หรือบีตรูต เป็นต้น




